TRANS/Interview

EXOLOGY Chapter 1: บทสัมภาษณ์ 'คิมจงอิน'

P🐰 2015. 1. 5. 23:02

EXOLOGY Chapter 1: บทสัมภาษณ์ 'คิมจงอิน'

-เวลาไปแสดงต่างประเทศแล้วอยู่ห้องพักคนเดียว ส่วนใหญ่จะทำอะไร

 ดูคลิปบอลไม่ก็คลิปเต้นครับ


-ได้ยินว่าเป็นแฟนบอลของ Chelsea ชอบมาตั้งแต่เมื่อไหร่

 เริ่มชอบตั้งแต่อายุประมาณ 17 ปีครับ คุณพ่อของผมท่านชอบดูบอลอยู่แล้ว ผมก็เลยโตมากับฟุตบอล ช่วงนั้นผมบังเอิญได้ดู Lampard ยิงประตูจากระยะครึ่งสนามครับ ผมว่านั่นมันเจ๋งสุดๆ ทำให้ผมตกหลุมรักฟุตบอลครับ บนชุดยูนิฟอร์มของ Chelsea ก็มีแบรนด์เกาหลีอย่าง Samsung ติดอยู่ทำให้ดึงความสนใจจากผมได้ด้วยครับ เดิมทีผมชอบ Torres พอเขาย้ายมาอยู่ Chelsea ใจผมก็คิดเลยว่า “ตั้งแต่นี้ไป นี่แหละทีมเรา” แล้วก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ Chelsea ครับ


-ช่วงนี้มีเวลาได้ดู Premiere League บ้างมั้ย

 ผมดูทุกแมชท์ของ Chelsea เลยครับ ไม่ได้ดูแค่เฉพาะไฮไลท์นะครับ แต่ดู ‘การแข่งขันย้อนหลัง’ ในยูทูปครับ แน่นอนว่าพอดูจบก็ดูไฮไลท์อีกรอบนึงครับ


-เห็นว่าช่วงนี้เป็นแฟนของ Eden Hazard

 ใช่ครับ ฮ่าๆ เขาเจ๋งมากๆเลยครับ


-เมื่อไม่กี่ปีก่อน ในการแข่งขัน Champion Leagua รอบรองชนะเลิศ Chelsea แพ้ให้กับ Barcelona ครั้งนั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการตัดสินของผู้ตัดสิน เพราะเรื่องนี้ทำให้มีแฟนๆของ Chelsea จำนวนมากไม่ชอบ Bercelona แล้วคุณล่ะ

 ผมชอบ Messi ผมเลยไม่คิดแบบนั้นครับ


-Messi VS Ronaldo

 ผมว่า Messi ทำได้ดีกว่านะครับ Ronaldo ก็เป็นนักกีฬาที่เก่งก็จริง แต่สำหรับ Messi ฟุตบอลคือตัวตนของเขาเลยครับ แต่...ฮ่าๆๆๆ ได้คุยเรื่องแบบนี้สนุกจังครับ รอบๆตัวผมไม่ค่อยมีคนคุยเรื่องนี้ด้วยเท่าไหร่ ผมได้ยินข่าวลือมาว่า Messi เขาเริ่มเบื่อหน่ายกับชีวิตในสเปนและอยากย้ายทีม เดี๋ยวคงมีข่าวจากทาง Chelsea ออกมาแน่ๆครับ! เอาจริงๆแล้วผมว่าเขาไม่น่าย้ายมา Chelsea หรอกนะ แต่แค่ได้ยินข่าวลือนี้ใจผมก็ตื่นเต้นไปหมดเลย ได้เห็นข่าวอะไรแบบนี้ผมก็มีความสุขมากเลยครับ


-ถ้าให้เลือกสถานที่ไปทัวร์ดูฟุตบอล คงจะไม่ไปสเปนหรือประเทศไหน คงจะต้องอยากไปอังกฤษแน่ๆเลย

 แน่นอนครับ ปีที่แล้วได้ไปอังกฤษแต่ไม่ได้ไปดูฟุตบอลด้วยตาตัวเอง แต่ว่าคุณคนขับรถทัวร์ก็เป็นแฟน Chelsea เหมือนกันครับ! จำได้ว่าคุยกันเรื่อง Chalsea ด้วยภาษาอังกฤษสั้นๆบวกกับภาษามือเล็กน้อยครับ


-ไม่มีเพื่อนดูบอลเหรอ

 แทมินเขาก็ชอบฟุตบอลครับ เขาชอบ Ronaldo เชียร์ทีม Real Madrid ครับ ซึ่งเป็นคู่แข่งกับ Bacelona ทีมของ Massi ใช่มั้ยครับ เพราะงั้นผมกับแทมินเลยทะเลาะกันเรื่อง Messi หรือ Ronaldo กันบ่อยๆครับ


-คิดว่าใครคือผู้จัดการทีมที่เจ๋งที่สุด

 ก็ต้อง Ferguson สิครับ เป็นคุณอีซูมานในวงการฟุตบอลอะไรประมาณนั้นเลยครับ ฮ่าๆ เขาไม่ได้แค่ทำทีมให้ชนะ แต่เขาพานักฟุตบอลทุกคนไปสู่ชัยชนะด้วยกัน สุดยอดมากๆเลยครับ


-เคยสร้างทีมฟุตบอลกับเพื่อนๆมั้ย

 ไม่ครับ เพราะผมชอบดูมากกว่าเล่น


-ถ้าได้ลงเล่นในสนามอยากเล่นตำแหน่งไหน

 กองกลางก็น่าจะดีนะครับ หรือไม่ก็ปีกซ้าย เพราะว่าผมถนัดเท้าขวาครับ


-ถ้าเล่นฟุตบอล มีนักกีฬาคนไหนที่ต้องซื้อตัวมาเล่ยมั้ย

 แน่นอนต้องมี Hazard ครับ แต่ละครั้งก็จะไม่เหมือนกัน ถ้าเกมบุกต้อง Diego Costa ถ้าป้องกันต้องเป็น John Terry, Gary Cahill และ ...


-แนะนำโลโก้ใหม่ที่เหมาะจะไปอยู่บนยูนิฟอร์มของ Chelsea

 SM ? ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


-คงจะได้ไปอังกฤษอีกเร็วๆนี้แน่ๆเลย

 ต้องไปแน่นอนครับ


-เวลาที่เหลือๆช่วงที่ต้องรอส่วนใหญ่ใช้ให้เกิดประโยชน์หรือปล่อยให้เวลามันผ่านไปเฉยๆ

 ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ ก็หาสิ่งที่ต้องการทำในเวลานั้นๆ


-ในสมาชิกด้วยกัน นับถือสมาชิกคนไหนมั้ย

 พี่ซูโฮครับ จิดใจของพี่เค้าสุดยอดมากๆ


-ในการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกนี้ สมาชิกคนไหนที่พึ่งพาได้

 ทุกคนเลยครับ ผมโชคดีมากๆที่มีพวกเขาอยู่เคียงข้าง


-มีเพลงที่ฟังบ่อยช่วงระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตบ้างมั้ย

 ผมฟังเพลงที่ให้ความลึกซึ้งครับ พวกบัลลาด R&B แนวๆนี้ ผมรู้สึกว่าเริ่มสนใจอยากร้องเพลงให้เก่งขึ้น อยากพัฒนาทักษะการร้องเพลง แต่ถึงแม้จะสามารถข้ามผ่านจุดนี้ไปได้ ข้างหน้าก็ยังมีเขาอีกลูกรออยู่


-ถ้าเทียบกับการเต้นแล้ว ประเภทก็ไม่ได้ต่างกันมากนะ

 เวลาเต้น แน่นอนว่ามันต้องมีความผิดหวังในตัวเองครับ แต่เพราะผมอยากทำให้ได้ดี เลยอัดเพลงมาซ้อมร้องคนเดียว เอามาฟังพิจารณาอย่างละเอียดครับ ผมไปซื้อพวกอุปกรณ์จากร้านค้าที่ Nakwon(낙원) สั่งซื้อไมค์จากอินเตอร์เน็ตด้วยครับ ซื้อแบบประหยัดๆเอามาใช้ซ้อมร้องครับ


-สิ่งต้องเอาติดตัวไปช่วงระหว่างเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ต

 ไม่ว่าจะไปไหน ผมขอแค่มีมือถือกับกระเป๋าสตางค์ก็พอครับ บางครั้งแม้แต่กระเป๋าสตางค์ก็ขี้เกียจจะพกครับ

-ก่อนขึ้นเวที มีคำพูดอะไรไว้บอกตัวเองมั้ย

 ผมจะพูดว่า ‘วันนี้ก็มาสนุกกันนะ’ ตลอดครับ ถ้าเราไม่สนุก ก็ไม่มีเหตุผลที่จะขึ้นไปบนเวที ต่อให้ผมอารมณ์ไม่ดี แต่ถ้าได้ขึ้นไปบนเวทีก็จะมีความสุขขึ้นมาเลยครับ ครั้งหนึ่งผมเคยไปแสดงให้เด็กในโรงเรียนที่กำลังจะปิดกิจการลงดู แม้แต่ตอนนั้นพอได้ขึ้นไปเต้นบนเวที ผมก็อารมณ์ดีขึ้นมาเลยล่ะครับ ความรู้สึกตอนนั้นมันประหลาดจริงๆนะ แต่ในอีกด้านหนึ่งผมก็รู้สึกกลัวนะครับ เพราะสำหรับผมแล้ว เมื่ออยู่บนเวทีผมจะมีความสุขมากที่สุดนี่ครับ ความสุขของคนอื่นๆทั่วไปคือเล่นเกม อ่านหนังสือ พบปะเพื่อนๆ ดูหนัง ไปเที่ยว ทำกิจกรรมต่างๆหลากหลายเหล่านี้ถึงจะได้รับความสุข เมื่อเกมหมดความสนุก หรือเบื่อกับการท่องเที่ยว ก็ยังสามารถมองหาความสุขจากสิ่งอื่นได้ ซึ่งผมว่าความเสี่ยงมันมีน้อยนะครับ แต่สำหรับผม ที่ที่ผมมีความสุขที่สุดคือบนเวที มันไม่มีทางเลือกอื่นเลยนะครับ ถ้าไม่รู้สึกถึงความสุขเมื่ออยู่บนเวที จุดนั้นคือจุดที่มีความเสี่ยงสูงมากๆครับ เพราะฉะนั้นถึงผมจะได้รับสิ่งอันยิ่งใหญ่จากการไปอยู่บนเวที แต่สิ่งที่ผมจะต้องเสียไปก็ใหญ่มากเหมือนกัน มีคำพูดที่ว่า ความสุขกับความทุกข์มักจะมีอย่างละครึ่งใช่มั้ยครับ บนเวทีผมมีความสุขก็จริง แต่พอลงมาแล้วก็มีสิ่งน่าเสียดายเหมือนกัน


-ตอนนี้อายุ 21 แล้ว จะเต้นไปจนอายุเท่าไหร่

 จุดสูงสุดของชึวิตของผมยังมาไม่ถึงครับ ผมก็รออยู่เหมือนกัน อาจจะเป็นช่วงอายุประมาณ 26 แน่นอนว่าตอนนั้นคงสนุกกับการเต้นในรูปแบบอื่นอยู่ และถ้าผมอายุซัก 30 ปี ผมจะยังเต้นแบบจริงจังโดยที่ไม่เหนื่อยเลยรึเปล่า ? แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมไม่รู้สึกสนุกกับการเต้น ผมก็ไม่ลังเลที่จะ'ลง'จากเวที ถ้าความสุขที่มีบนเวทีหายไป เมื่อนั้นเวทีก็หมดความหมายสำหรับผมครับ เหตุผลที่ผมยืนอยู่บนเวที นอกจากผมจะภาวนาให้แฟนๆดูและสนุกไปการแสดงแล้ว คือการที่ตัวผมเองก็สนุกไปกับมันด้วยครับ


-หลังจากทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกจบลงแล้ว มีจุดไหนที่เสียดายมั้ย

 ในความสุขทั้งหมดบนเวที ผมเสียดายเรื่องเกี่ยวกับขีดจำกัดของพละกำลังครับ หลังจากจบทัวร์คอนเสิร์ต ผมต้องเริ่มจากยืดเวลา/เพิ่มพละกำลังครับ ส่วนตัวแล้วผมสนุกกับการแสดงโซโล่ที่มันเป็นแบบที่ผมต้องการ แม้จะได้รับความช่วยเหลือจาก นักแต่งเพลง สไตล์ลิสต์ นักออกแบบท่าเต้นทุกๆท่าน แต่เรื่อง เพลง การเต้น ไปจนถึงเสื้อผ้า ผมเป็นคนออกไอเดีย และกำกับเองทั้งหมด การแสดงโซโล่ของผมจะแสดงก่อนเพลง Overdose ผมอยากให้รู้สึกถึง คนสติไม่สมประกอบจากการเสพติดบางสิ่งบางอย่าง แต่จริงๆการแสดงที่มีแรงจูงใจแบบนี้มันเป็นถูกปิดเป็นความลับครับ เพราะผมอยากให้แฟนๆตีความได้อย่างหลากหลาย แทนที่จะบอกเกี่ยวกับสิ่งที่ผมแสดงออกไปตรงๆ ผมอยากให้แฟนๆสนุกๆกับการเปรียบเทียบความรู้สึกของตัวเองกับความรู้สึกที่ผมแสดงออกมามากกว่าครับ ถึงแม้ว่าผมจะแสดงเป็นคนสติไม่ดีเหมือนเดิม แต่แฟนๆก็สามารถตีความไปได้หลากหลาย เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ดูหนังเรื่อง 'Interview with the Vampire’ เลยเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ของโซโล่เล็กน้อยครับ ถึงแม้ผมจะแสดงออกให้ตีความได้ว่าเป็นแวมไพร์ แต่ผมคิดว่ามุมมองของแต่ละคนต้องต่างกัน จินตนาการบนเวทีมันสำคัญก็จริง แต่ผมอยากเปิดโลกของจินตนาการให้แฟนๆได้รับรู้ด้วยครับ


"การขึ้นไปยืนบนเวที มันหมายถึงความรับผิดชอบต่อผู้ชมตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม นั่นก็คือแฟนๆผู้ที่เชื่อมั่นใน EXO และมาชมการแสดงของเรา รวมถึงเหล่าสต๊าฟที่เชื่อมั่นในพวกเรา ทั้งเตรียมเสื้อผ้าสำหรับโซโล่ วางแผนท่าเต้น เลือกเพลงที่จะใช้แสดง วางแผนคอนฯ รวมถึงเตรียมเวทีการแสดงต่างๆ ซึ่งทำให้พวกเรามุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังมากขึ้น ความรับผิดชอบของเราจึงเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่การกำกับเวทีโซโล่ด้วยตนเอง"


Q. ความลับเกี่ยวกับสมาชิกจากปากของเมเนเจอร์
อีซึงฮยอน - ความลับของไคคือ สเน่ห์ที่แตกต่างกัน พูดสั้นๆคือเวลาแสดงบนเวที เขาเท่และสามารถดึงดูดให้มองไปที่เขาอย่างไม่ละสายตา ดูจะเข้าถึงยากใช่มั้ยครับ แต่พอลงจากเวที เขาก็กลับไปเป็น ไค เด็กหนุ่มใสๆวัย 20 ต้นๆ ชอบหยอกล้อกับสมาชิกคนอื่นๆ และวิ่งไปกอดพี่ๆเมเนเจอร์ ทั้งน่ารักและบริสุทธิ์ เหมือนกับเพื่อนๆในวัยเขานั้นแหละครับ

 

  แจ็คเก็ตลายสก็อตตัวโปรด                                    หนังสือการ์ตูนที่ชอบอ่านช่วงนี้

  หนังสือที่เพิ่งเริ่มอ่านเมื่อไม่นานนี้                                   น้ำหอมที่ชอบใช้  

        อะแดปเตอร์ที่ต้องเอาติดไปเวลาไปญี่ปุ่น


ภาษาเกาหลีและรูปภาพ : EXO인터뷰봇

แปล/เรียบเรียง : withkaidyo